อาชีพที่คนทั่่วโลกพูดถึงกันมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เป็นสิ่งอื่นไปไม่ได้ นั่นก็คือ Data Scientist หรือนักวิทยาศาตร์ข้อมูล ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น The most sexiest job of 21st century จาก Harvard (source)กันเลยทีเดียว และทางบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลกอย่าง Mckinseyได้ประเมินว่า เฉพาะในประเทศ US อย่างเดียวจะมีตำแหน่งนี้ขาดแคลนถึง 190,000 ตำแหน่ง และตำแหน่งที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ manager level ที่ต้องมีความสามารถและความเข้าใจในการนำข้อมูล Insight ที่ได้จากการวิเคราะห์ของนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลนั้น ไปใช้ในการวางแผนหรือปรับปรุงการตัดสินใจที่มีผลต่อการขับเคลื่อนธุรกิจ อาจจะขาดแคลนบุคคลากรถึง 1.5 ล้าน คน ภายในปี 2018
และยิ่งไปกว่านั้น ทาง US government ได้แต่งตั้ง DJ Patil เป็น Chief Data Scientist คนแรก ลองมาฟังวิสัยทัศน์ของนายคนนี้กัน ซึ่งได้พูดไว้ที่งาน Strata+ Hadoop World Conference
จากที่กล่าวมาข้างต้น เห็นได้ชัดว่า สาขาด้านนี้กำลัง Boom มากในต่างประเทศ ไม้เว้นแม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านเราอย่าง มาเลเซีย หรือ สิงคโปร์ ได้มีการประกาศหาตำแหน่งกันและแย่งชิงตัวกันให้วุ่น แล้วเมืองไทยละ ??
เท่าที่ได้คุยกับผู้บริหารท่านนึงที่อยู่ในวงการ Big Data ทราบว่า ตอนนี้ในตลาดเมืองไทยเอง กำลังเตรียมตัวบุคลากรกันอยู่ เห็นได้จากมีภาคเอกชนได้ร่วมกับมหาลัยของรัฐบาลได้ร่วมมือกันจัดตั้งศูนย์ Big Data ขึ้น และจัดหลักสูตรให้กับนักศึกษาเพื่อรองรับความต้องการของตลาดในวันข้างหน้าแล้ว
ณ เวลานี้ ถ้าถามว่าบริษัทกลุ่มไหนในเมืองไทยที่พร้อมที่สุดในการลงทุนทำ Big Data Analytic ความคิดเห็นส่วนตัวน่าจะเป็นบริษัทที่มีปริมาณข้อมูลที่ถือครองเยอะที่สุด คือ
- กลุ่มโทรคมนาคม
- กลุ่มธนาคาร
- กลุ่มรีเทลล์ (ค้าปลีก , ค้าส่ง)
- กลุ่ม Logistic
ใครที่ได้อ่านมาถึงจุดนี้และรู้สึกสนใจที่อยากลองเปลี่ยนสายงาน ซึ่งใน post หน้า ผมจะมา share learning path to be data scientist ให้ครับ
smm panel
ReplyDeletesmm panel
HTTPS://İSİLANLARİBLOG.COM
instagram takipçi satın al
Hırdavatçı Burada
beyazesyateknikservisi.com.tr
servis
tiktok para hilesi indir